เช็คฟอร์มลิเวอร์พูลที่กำลังกลับมาเข้าฝัก

Sbobetติดตามความเคลื่อนไหว เช็คฟอร์ม ลิเวอร์พูล ที่ค่อยๆ กลับมาติดเครื่อง จากเดิมในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกลุ่มๆ ดอนๆ จนโดนทีมหัวตารางทำแต้มทิ้งห่างไปไกล มาตอนนี้พวกเขากำลังค้นหาฟอร์มเดิมของตัวเองเจออีกครั้ง ขอนำเสนอการวิเคราะห์ผลงานทีมหงส์แดง

สำหรับสาวกพลพรรคทีม “หงส์แดง” ต้องบอกเลยว่าฤดูกาลที่ผ่านมาคืออารมณ์แบบ จะฟินก็ฟินไม่สุด เหมือนคนจุกอกพูดลำบาก หลังที่มีโอกาสได้ลุ้นถึง 4 แชมป์ แต่กลับทำได้เพียงสองแชมป์ กับถ้วย เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ แต่ดันไปพลาดท่าเสียทีที่ต้องแห้วแชมป์รายการใหญ่อย่าง ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก และ พรีเมียร์ลีก ที่เป็นสิ่งที่เหล่า สาวก “หงส์แดง” หวังไว้มากกว่า 

แต่หากให้พูดถึงแชมป์ในประเทศอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ทัพ “หงส์แดง” ยังคงโชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานที่สุดยอด โดยเก็บมาได้ถึง 92 คะแนนจาก 38 เกม เก็บชัยชนะได้ 28 เกม เสมอ 8 และแพ้เพียง 2 เกมเท่านั้น ถ้าหากพูดกันตรงๆ ผลงานระดับนี้ต้องบอกว่าสามารถแบบคว้าแชมป์ได้แล้ว กับฟอร์มที่จัดจ้านขนาดนี้

แต่อย่างไรก็ตามในการแข่งพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น “หงส์แดง” ต้องเจอขวากหนามจังเบ้อเร่อของทัพ “เรือใบสีฟ้า” ที่สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมา แบบทำให้เหล่าบรรดาทีมในพรีเมียร์ถึงกับอึ้ง โดยพวกเขาเก็บไป 93 แต้ม เฉือนชนะ ขึ้นแท่นคว้าแชมป์พรีเมียร์ไปได้แบบหวุดหวิดเพียง 1 แต้ม 

ซึ่งเกมสุดท้ายต้องชื่นชมความนิ่งของทีม “เรือใบสีฟ้า” ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาทียิง 3 ประตู พลิกกลับมาเก็บชัยเหนือ แอสตัน วิลล่า 3-2  นั่นทำให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงกับได้ยิ้มแห้งๆดูทีมคู่แข่ง ถือถ้วยแชมป์ไปต่อหน้าต่อตา จึงต้องหยุดความฝันที่จะสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวไว้เพียงเท่านี้ โดยทำได้แค่เป็นรองแชมป์ของศึกพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2021-22 เท่านั้น 

อีกทั้งเหล่าแฟนๆ “หงส์แดง” ต้องมานั่งน้ำตาคลออย่างต่อเนื่อง ที่ทีมต้องมาพ่ายทัพ เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก จากการถูกสวนกลับเพียงครั้งเดียวของ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ได้ง้างยิงตรงกรอบได้ประตูชัยเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0

แต่ถึงอย่างนั้นในเกมนัดนี้ต้องชม ติโบต์ กูร์ตัวส์ นายด่านของทัพราชันชุดขาว ที่วันนั้นผีห่าซาตานอะไรเข้าสิงไม่รู้ ทั้งปัดทั้งรับ ทั้งเซฟ แถมทีมยังยิงชนเสา ชนคาน เหมือนฟ้าสั่งให้เป็นผู้พิทักษ์ความเป็นแชมป์ ซึ่งทำอย่างไร “หงส์แดง” ก็เจาะไม่เข้า โดยมีการยิงไปทั้งหมด 23 ครั้ง และบอลตรงกรอบถึง 9 ครั้ง จบเกมจึงเป็นความพ่ายแพ้ของทัพ หงส์แดง ให้ทัพ “ราชันชุดขาว” ไปอย่างน่าเจ็บใจ

แต่อย่างไรก็ดีถึง ลิเวอร์พูล จะเป็นเพียงได้แค่รองแชมป์ แต่พวกเขาสร้างสถิติไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเสียประตูน้อยที่สุดในลีก โดยเสียไปเพียง 26 ประตู และ เก็บคลีนชีทได้มากที่สุด ได้ถึง 21 นัด เท่ากับทีมแชมป์อย่าง แมนซิตี้ อีกทั้งยังเป็นทีมที่สร้างโอกาสยิงได้มากที่สุดถึง 729 ครั้ง เป็นประตูได้ถึง 94 ประตู มากสุดเป็นอันดับ 2 ของลีก

เท่านั้นยังไม่พอทีมของ เจอร์เก้น คล็อป ยังทำสถิติอื่นๆที่น่าสนใจไว้อีกเพียบ ได้แก่ ไม่แพ้ใคร 19 เกมติดต่อกัน, ไม่เสียจุดโทษเลยแม้แต่ครั้งเดียว, มีสถิติเช็คล้ำหน้าได้บ่อยที่สุด, เกมที่ชนะขาดลอยที่สุดคือนัดที่บ้านบ้านถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-0, เป็นทีมที่ยิงยิงประตูได้มากที่สุดในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก และครึ่งหลัง, ไม่แพ้ใครในบ้านแม้แต่เกมเดียว โดยทำสถิติ ชนะ 15 เสมอ 4, ยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เพียง 1 เกม คือนัดที่บุกไปแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 สุดท้ายทีมที่โดนยิงรวมมากที่สุดได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่โดนทั้งขาไปขากลับ (0-5, 4-0) และ ลีดส์ ยูไนเต็ด (6-0, 0-3) รวม 9 ลูก ทำเอา แฟนหงส์ได้ล้อ 9-0 ไปอีกยาวๆ 

จากการสร้างมาตราฐานที่สุดยอดของ หงส์แดง ในฤดูกาลที่ผ่านมานั่นทำให้เห็นว่าทีมมีการพัฒนาอยู่ตลอด จากผลงานภายใต้การนำทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีมาตรฐานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และฤดูกาล 2022-23 เหล่าสาวกหงส์แดง คงต้องเจอศึกหนักต่อไป ในเส้นทางลุ้นแชมป์ในทุกรายการเช่นเคย 

ต้องบอกเลยว่าทัพ “หงส์แดง” ฤดูกาลที่ผ่านมา มีปัญหากับผู้เล่นบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน เลยทำให้เกมในแดนกลางดูจะเป็นจุดอ่อนอย่างมากในซีซั่นที่แล้ว เพราะตัวหลักที่ เจอร์เก้น คล็อป หมายมั่นปั้นให้เก่งอย่าง นาบี เกอิต้า และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ต้องมาบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้ง รายหลังต้องพักรักษาตัวแทบปิดซีซั่นเลยเนื่องจากกระดูกข้อเท้าแตกและหลุด แต่ทว่าทั้งคู่ก็พักรักษาตัวหายดีแล้วในเวลานี้ และทำผลงานในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นดีเสียด้วย 

แต่ถึงอย่างนั้น คล็อป ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมจัดการทัพแดนกลางใหม่ โดยจะให้เหล่าเด็กหนุ่มลงมาบู๊แทนแข้งซีเนียร์อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่นับวันชักโรยรา โดยจัดการคว้าตัว ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ กองกลางของฟูแล่ม ด้วยค่าตัวแสนถูกเพียง 5 ล้านปอนด์เท่านั้น แถมยังทำผลงานได้อย่างน่าดูชมอีกด้วย ทั้งยังมีแข้งที่ไว้ใจได้อย่าง ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่ทำให้แดนกลางดูแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อยเลย 

ส่วนขุมกำลังในแนวรุก ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีแนวรุกที่ไม่เป็นรองใคร แม้จะไม่มี ซาดิโอ มาเน่ ให้เป็นสามประสานให้แฟน “หงส์แดง” ให้คิดถึงโดยที่ย้ายทีมไปซบ บาร์เยิร์น มิวนิค ไปแล้วนั่นเอง แต่ทีม “หงส์แดง” ก็ปิดจ็อบคว้า ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวเก่งจากเบนฟิก้า มาร่วมทัพ ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสร

และเขาก็เริ่มวาดลวดลายให้เหล่าเดอะค็อป ได้อุ่นใจกันได้แล้วหลังจากกด 4 ลูกในศึกอุ่นเครื่องกับทาง แอร์เบ ไลป์ซิก อีกทั้งยังมากดอีกลูกปิดประตูชัยใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ พาทัพ “หงส์แดง” ผงาดแชมป์แรกก่อนเปิดฤดูกาลใหม่อีกด้วย 

เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้จบดราม่าและต่อสัญญาใหม่และรับค่าเหนื่อยสูงสุดของสโมสร แต่ก็ยังทำผลงานได้อย่างไม่มีที่ติ โดยพร้อมที่จะตะบันประตูฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง เพื่อสร้างสถิติดาวซัลโวสูงสุด 3 สมัยติดต่อกันให้ได้ด้วย แถมทั้งนี้ทีมยังมี หลุยซ์ ดิอาซ, ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่สามารถหมุนเวียนในแดนหน้าได้ตลอด 

โอกาสของผู้ลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีมาถึงแล้ว สังคมออนไลน์ สร้างรายได้พนันบอลออนไลน์เปิดให้เล่นทุกคู่ทุกทัวร์นาเมนต์ เพียงสมัครสโบเบทเพื่อง่ายต่อการฝาก-ถอน สะดวก รวดเร็วปลอดภัย

พรีเมียร์ลีกแทงบอล