
เมื่อกองหลังสถิติค่าตัวของแมนยูกลายเป็นนักเตะสายคอนเทนต์
s-bobetรายงานข่าว ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของ แฮร์รี แม็กไกวร์ ปราการหลังร่างสูง ค่าตัวแพงที่สุดในโลกให้กับกัปตันทีมโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ย่างกุ้ง ที่ถูกแฟนบอลด่ามากที่สุดในช่วงนี้
Jacob Harry Maguire (จาค็อบ แฮร์รี แมคไกวร์) เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2536 ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ส่วนสูง 194 ซม. เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสรเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2011 ถึง 2014 โดยลงเล่นไป 134 นัด ยิงได้ 9 ประตู ก่อนถูกเลือกมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเมื่อเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ ต่อมา แฮร์รี่ ย้ายไปร่วมทีมฮัลล์ ซิตี้ ระหว่างปี 2014–2017 ลงเล่น 54 นัด ยิงได้ 2 ประตู ซึ่งเขาถูกปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ ยืมตัวไปเล่นกับวีแกน แอธเลติก ในฤดูกาล 2015 ลงสนาม 16 นัด ยิงได้ 1 ประตู
พนันบอลออนไลน์สมัคร sbobet รับโบนัสแรกเข้าได้เลย ฝากถอนรวดเร็ว เช็คผลบอลสด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์หลายช่องทาง
แต่ต่อมา หลังจากที่ฮัลล์ ซิตี้ ตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาล 2015/16 แม็กไกวร์ก็ถูกดึงกลับมาช่วยทีม และเขาก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวัง เขากลายเป็นผู้เล่นหลักในการพาทีมกลับสู่พรีเมียร์ลีกทันทีในฤดูกาลถัดไปหลังจากจบอันดับสี่ในตารางก่อนจะคว้าแชมป์เพลย์ออฟ
ในปี 2016/17 เป็นฤดูกาลแรกของเขาในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วฮัลล์จะจบอันดับที่ 18 ทำให้พวกเขาต้องตกชั้นอีกครั้ง แต่ผลงานของแม็คไกวร์ก็โดดเด่นจนเตะตาแมวมอง “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/16 ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัวประมาณ 17 ล้านปอนด์.
หลังจากนั้นไม่นาน แม็กไกวร์ ก็เข้ามารับตำแหน่งปราการหลังตัวจริงของจิ้งจอกสีน้ำเงิน และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงกลายเป็นหนึ่งในปราการหลังเนื้อหอมที่มีแต่ทีมใหญ่ต้องการตัวเขาหลังจบฟุตบอลโลก ส่วนผลงานกับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นไป 69 นัด ยิงได้ 5 ประตู
เมื่อ Maguire ผงาดขึ้นมาโดดเด่นในช่วงฟุตบอลโลกปี 2018 หนึ่งในความรู้สึกทางโซเชียลมีเดียคือการแชร์รูปภาพของเขาในปี 2016 เมื่อเขายังเป็นผู้เล่นที่ไม่รู้จักของ Hull City เขาเดินทางไปฝรั่งเศสกับเพื่อนและญาติในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนคนสำคัญของอังกฤษ บ้านเกิดของเขาใครจะเชื่อว่า เพียง 2 ปีต่อมา แม็กไกวร์ จะโด่งดังเป็นพลุแตก และกลายเป็นหนึ่งในปราการหลังตัวจริงของทีมชาติอังกฤษเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เขายังคงอยู่ที่เลสเตอร์ในฤดูกาล 2018/19 และยังคงสร้างความประทับใจต่อไป และพาทีมจบอันดับที่ 9 อีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 80 ล้านปอนด์ เพื่อดึงเขาเข้าสู่รั้ว โอลด์แทร็ฟฟอร์ดซึ่งทำให้เขาเป็นปราการหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกทันทีโดยทำลายสถิติของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้ายจากเซาแธมป์ตันมาร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์